ดู TV
ฟังวิทยุ อ่าน นสพ.
การ
Set
เพื่อพิมพ์ไทย
โทรกลับไทย
IRADIUM
โทรกลับไทย
Telerabais
ที่ตั้งและแผนที่
Aix
การเดินทางและตารางรถ
ตารางรถประจำทางใน
AIX
ตารางรถไป
Marseille
และ
Plan de campagne
ตารางรถPays
d'Aix ไป Plan
สภาพอากาศประจำวัน
ที่
Aix-en-Provence
Webboard
(กระทู้)การขอทุนเรียนที่ฝรั่งเศส
การปรับหลักสูตรมหาวิทยาลัยของฝรั่งเศส
คู่มือศึกษาต่อในประเทศฝรั่งเศส
(โดยสารสนเทศการศึกษาต่อต่างประเทศ)
คู่มื่อเลือกมหาวิทยาลัยในฝรั่งเศส(
Guide Lamy des 3es cycles)
โรงเรียนสอนภาษาฝรั่งเศส
IEFEE
มหาวิทยาลัยต่าง
ๆ ในฝรั่งเศส
มหาวิทยาลัยใน Aix
Université
de Provence
Université
de la Mediterranee
Université Paul
Cézanne
(Universitéde
Droit, d'Economie et des Sciences d'Aix-Marseille3)
สถาบันศึกษาอื่น
ที่พักอาศัย
-
ที่พักของมหาวิทยาลัย
(
CROUS)
ที่พักของเอกชน
-
(Estudines)
-
(Citadine)
-
หาที่พักกับ
adele.org
-
หาที่พักกับ office de tourisme
-
พักที่บ้านพักเยาวชน(Auberge de jeunesse)
การขอเงินช่วยเหลือค่าที่พัก(CAF)
การติดต่อที่จำเป็น
การติดต่อขอใบอนุญาตพักอาศัยในประเทศ(Carte de sejour)
- เอกสารที่ต้องใช้
1/
2
/3
- ติดต่อ
Prefecture des Bouches-du-Rhone
-
(กระทู้Thaiaixoisที่เกี่ยวข้อง)
การประกันสุขภาพ
-
การติดต่อประกันสุขภาพ
Securite sociale)
-
MEP
ประกันสุขภาพของนักเรียน(อายุไม่เกิน 25 ปี)
-
Assurance étudiant
(อายุไม่เกิน 40 ปี)
อื่น ๆ
-
การทำงานนอกเวลา
-
การต่ออายุหนังสือเดินทาง
ลิงค์เพื่อนบ้าน
Thai
Law Reform
สมาคมนักเรียนไทยในฝรั่งเศส
เพื่อนไทยในเกรอนอบ
เพื่อนไทยในตูลูส
เพื่อนไทยในลียง
ABC-Bittorrent
Client โดย pingpong
เพื่อนไทยในเบลเยี่ยม
สำนักงานผู้ดูแลนักเรียนฯ
เล่าข้ามฟ้ากับนาย
Baguette
Pokpong's
Nujern's
homepage
Café
Lunar
Cafe
Lunar สาขา 2
Le
Journal de TAUNG
Artsstudio
|
|
สึนามิ เส้นทางสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
เมอร์ซิเออปองด้า
พรพล น้อยธรรมราช นักเขียน(เกือบ)อิสระ
ผมคงไม่มีอะไรจะพูด นอกจากคำว่า เสียใจอย่างสุดซึ้ง
กับความสูญเสียของพี่น้องคนไทย และชาวต่างชาติ จากคลื่นยักษ์สึนามิ
ที่ฝั่งทะเลอันดามัน ขอไว้อาลัย ให้แก่ผู้ที่จากไป อย่างไม่มีวันกลับ
และดวงวิญญาณที่เหนื่อยล้าคงได้พักอย่างสงบ
ผมนั่งดูเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องจนถึงวันนี้
ยอดผู้เสียชีวิตจากคลื่นสึนามินั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ
แม้ว่าบางที่บางแห่งจะดูเข้าที่เข้าทางแล้วบ้าง
แต่อีกหลายที่ยังเห็นความเป็นนรกบนดินได้อย่างชัดเจน
ดูแล้วเหมือนฝันไป กับแผ่นดินไหวใต้น้ำที่เกาะสุมาตราห่างไทยไปกว่า 400
กิโลเมตร แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้นำพาตัวเองไปทั้งไทย พม่า มาเลเซีย
หมู่เกาะอันดามัน หมู่เกาะนิโคบา ศรีลังกา บังกลาเทศ อินเดีย ไปถึงเคนยา
และแทนซาเนีย
นี่คือพลังของธรรมชาติ!!
ปัจจุบัน เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า
ภัยธรรมชาตินั้นเป็นเรื่องไม่ได้เกิดในขอบเขตภูมิศาสตร์ของรัฐใดรัฐหนึ่งเท่านั้น
การรับมือกับภัยธรรมชาติได้กลายเป็นเรื่องระดับโลก
ระดับพหุภาคีที่ต้องอาศัยระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเข้ามาช่วย
ตั้งแต่หน้าเสื่อจนถึงรายละเอียดปลีกย่อย เช่น การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ทั้งทางการเงินและเทคโนโลยี การกู้ภัย การจัดตั้งระบบป้องกันภัย
ไปจนถึงการฟื้นฟู การศึกษาร่องน้ำการเดินเรือที่เปลี่ยนแปลงไป การกำหนดค่าต่างๆ
ทางภูมิศาสตร์ใหม่
ระบบเศรษฐกิจปัจจุบันที่ผูกโยงกันไว้แทบจะเกือบทั้งโลก
เป็นไปไม่ได้ที่ประเทศใดประเทศหนึ่งที่มีผลประโยชน์เชิงรัฐศาสตร์
และเศรษฐศาสตร์กับประเทศที่ประสบภัยจะเมินเฉยไม่ยอมให้ความช่วยเหลือ
เพราะไม่ใช่เพียงประเทศที่ประสบภัยจะสูญเสีย แต่ประเทศที่มีผลประโยชน์ร่วมด้วย
ก็สูญเสียโอกาสในการทำมาค้าขายระหว่างกันที่หยุดชะงักลงอย่างกะทันหัน
กลายเป็นโดมิโนตามไปด้วย
เช่นการลดลงของผู้โดยสารสายการบินจากญี่ปุ่น
ที่จะเข้ามาเที่ยวที่ทางภาคใต้ของไทยหลายเที่ยวบิน
อันจะทำให้เกิดการขาดทุนของการบินในหลายเที่ยวบิน เรียกได้ว่าคลื่นยักษ์ชนไทย
กระทบไปถึงญี่ปุ่น
ประเทศต่างๆ จึงต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยเฉพาะชาติมหาอำนาจ
เพราะนอกจากเหตุผลที่จะต้องยื่นความช่วยเหลืออย่างที่กล่าวแล้ว
การช่วยเหลือด้วยงบประมาณมหาศาลนั้นยังส่งผลให้ภาพพจน์ของประเทศนั้นเป็นที่น่าเชื่อถือในเวทีโลก
อันจะส่งผลถึงค่าเงินของตนที่ต้องอาศัยความเชื่อมั่นจากผู้ถือเงินสกุลนั้นๆ
อย่างดอลลาร์สหรัฐ เพราะการที่ภาพพจน์ของอเมริกาในเวทีโลกดูแย่ลง
และการที่เงินดอลลาร์มีมากจนล้นตลาดหลังจากมีการเร่งผลิตออกมาใช้จ่ายในการสงคราม
การที่จะทำให้คนยังเชื่อมั่นในการถือเงินดอลลาร์อยู่นั้น ก็คือ
การแสดงออกถึงความเป็นมหาอำนาจให้ได้ตลอดไป
นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่สหรัฐต้องเพิ่มเงินช่วยเหลือประเทศผู้ประสบภัย
แต่ตัวเลขก็คือตัวเลข
การช่วยเหลือในความเป็นจริงจะเป็นอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่งซึ่งอาจจะต้องมีเรื่องการเมืองหรือวาระซ่อนเร้นอะไรเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง
อย่างที่เร็วๆ นี้ทางอิหร่านได้บ่นออกมาเสียงดังถึงการ "เบี้ยว"
เงินช่วยเหลือที่ประเทศมหาอำนาจต่างสัญญาเอาไว้
หลังจากอิหร่านประสบภัยแผ่นดินไหวเมื่อปลายปี 2546 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า
1.5 หมื่นคน
การที่อิหร่านออกมาทวงสัญญาคงหนีไม่พ้นที่จะออกมาเหน็บแนมสหรัฐแอนด์โค
ที่ประกาศตัวเลขช่วยเหลือสูงให้คนนับถือ แต่ลับหลังก็เบี้ยวไปซะเฉย ๆ
เพราะเรื่องอะไรที่ประเทศอย่างสหรัฐจะเอาเงินไปลงกับศัตรูคู่อาฆาตที่แทบจะไม่มีผลประโยชน์ร่วมกับสหรัฐเลย
ส่วนจะหวังไปถึงความช่วยเหลือจากองค์กรระหว่างประเทศนั้น
ก็กลายเป็นเรื่องยากเสียแล้ว
ผมได้นั่งอ่านสื่อหลายประเทศหลากสำนักในยุโรป มีประเด็นหนึ่งที่เขาชี้คล้ายๆ
กันกับที่ผมรู้สึก ก็คือ
บทบาทขององค์กรระหว่างประเทศที่เป็นองค์กรเหนือชาติต่างๆ อย่างสหประชาชาติ WTO
IMF เข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือค่อนข้างเชื่องช้า
สืบเนื่องมาจากการที่สหรัฐประกาศละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติเอาดื้อๆ
เพื่อส่งกองทัพเข้าอิรัก ผลคือ
องค์การอย่างสหประชาชาติที่เคยได้รับความเชื่อถือกลายเป็นที่ครหา
ขาดความเชื่อมั่นจากนานาชาติ พาลจะไม่มีใครคบ
และเจริญรอยตามสันนิบาตชาติเข้าไปทุกที
ประเทศต่างๆ
ที่ให้ความช่วยเหลือเองก็ไม่รอที่จะให้องค์กรระหว่างประเทศเหล่านั้นจัดการอะไรแทน
(ทั้งๆ ที่ดูน่าจะสามารถจัดการความช่วยเหลือด้านการเงินได้เป็นระบบกว่า)
แต่ได้พุ่งความช่วยเหลือเข้ามาด้วยตนเองแบบทวิภาคี
องค์กรเหล่านี้จึงเป็นที่พึ่งได้ก็จำพวกด้านสุขภาพอนามัย โรคติดต่อ
เด็กและเยาวชน แต่ถ้าเป็นเรื่องเงินทอง ทุนต่างๆ
ชั่วโมงนี้ต้องบอกว่าความช่วยเหลือของแต่ละประเทศมาเร็วกว่า
และน่าเชื่อถือน่าคบค้ามากกว่า
ผมอาจจะมองแง่ร้ายเกินไป แต่ถ้ามองในมุมกลับกัน
การที่ได้มีโอกาสช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น
ก็เหมือนเป็นโอกาสอย่างหนึ่งของประเทศมหาอำนาจที่จะได้ผูกมิตรให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังเป็นการกระจายเงินสกุลของตัวเองที่มีอยู่ในมือจำนวนมากให้ไปตกอยู่ในมือคนอื่นบ้าง
เป็นโอกาสนำเงินมาหมุนเวียน ทำให้เกิดพลวัต สร้างความเข้มแข็ง
และเสถียรภาพของค่าเงินไปในตัว
อีกทั้งยังเพิ่มความสามารถในการควบคุมค่าเงินทางอ้อมไปในตัวด้วย
ความจริงเขียนเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าสนับสนุนไทยให้มีการค้าขายระหว่างประเทศ
และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบมองอนาคตไกลๆ ในหลายด้าน
จากมุมมองเรื่องภัยธรรมชาติ
ต่อจากนี้ไทยต้องรู้จักคบหามิตรประเทศที่ถูกต้องเหมาะสม
มองการณ์ไกลว่าควรจะเลือกคบใครเป็นหลักใครเป็นรอง
เพราะการเลือกคบมิตรที่ถูกที่ถูกเวลา เมื่อเวลาเกิดภัย
หรือการขอความช่วยเหลือต่างๆ ก็จะมาอย่างถูกที่ถูกเวลาเช่นกัน
ไม่มีการอืดอาดยืดยาด รอดูสถานการณ์ถ่วงเวลา
เพราะหากประเทศไหนมีการผูกสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับเรามากๆ
ประเทศนั้นก็จะไม่ลังเลที่จะทุ่มเงินลงมาช่วยเหลืออย่างเช่นญี่ปุ่น หรือสหรัฐ
แต่ถ้ามีการผูกสัมพันธ์น้อย ผลก็จะตรงกันข้าม
ภัยธรรมชาติอย่างสึนามินั้น ยากจะหลีกเลี่ยง
เมื่อเกิดภัยธรรมชาติจนถึงขนาดนั้นต้องขอรับความช่วยเหลือจากนานาชาตินั้น
ต้องยอมรับว่าผู้ที่จะยื่นมือเข้ามาให้ช่วยเหลือเรา
ส่วนใหญ่ก็เป็นประเทศที่เป็นคู่ค้า คู่ผลประโยชน์ และมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
ฉะนั้นไม่ใช่ว่าเราจะไปขอความช่วยเหลืออย่างเดียว
เราเองต้องสร้างบรรยากาศให้ความช่วยเหลือให้ตัวเองด้วย
ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างบรรยากาศการลงทุน และท่องเที่ยวให้เหมือนเดิม
ดึงดูดให้ประเทศต่างๆ เข้ามามีสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับเรา ทั้งในเรื่องการค้า
การท่องเที่ยว เส้นทางบิน หรือเส้นทางเดินเรือ ซึ่งยิ่งแน่นแฟ้นเท่าไหร่
ความช่วยเหลือก็จะไหลมามากขึ้น
ความช่วยเหลือจากต่างชาติ ไม่ใช่ว่าเราได้มาแบบได้เปล่า
แต่เกิดจากการกระทำของเราในอดีตที่รู้จักคบมิตร
เพื่อในยามทุกข์เราจะได้รับความช่วยเหลือ
เราเป็นประเทศเล็กๆ ในเวทีโลก การที่จะเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างสุดโต่ง
เป็นความเสี่ยงต่ออนาคตของชาติ ถูกแล้วครับที่เราดำเนินนโยบายเป็นกลาง
แต่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่น่าเข้าข้างมาตลอด
เพราะมันเป็นทางรอดของประเทศเล็กอย่างเรา
เราไม่สามารถขอให้ประเทศไหนๆ มาช่วยเราได้
แต่เราสามารถสร้างแรงจูงใจให้ประเทศเหล่านั้น
ต้องการที่จะเข้ามาช่วยเหลือเราได้ และในที่สุดแล้ว สำหรับไทย
ตนก็เป็นที่พึ่งแห่งตนอยู่วันยังค่ำครับ
(กลับไปข้างบน)
/(กลับไปหน้าแรก)
/
(กลับไปหน้าแรก
salon)
สงวนลิขสิทธิ์ © 2003
งานเขียนแต่ละชิ้นเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียนแต่ละท่าน
|