ศัพท์กฎหมายฝรั่งเศส

Internet pour le droit

เรื่องอยากเล่า

Salon d'Aix

webboard

คุยกับดอกแก้ว

จดหมายเหตุ


ดู TV ฟังวิทยุ อ่าน นสพ.
การ Set เพื่อพิมพ์ไทย
โทรกลับไทย IRADIUM
โทรกลับไทย Telerabais

ที่ตั้งและแผนที่ Aix
การเดินทางและตารางรถ

ตารางรถประจำทางใน AIX
ตารางรถไป Marseille และ Plan de campagne
ตารางรถPays d'Aix ไป Plan
    สภาพอากาศประจำวัน
    ที่ Aix-en-Provence


Webboard

Thaiaixois Gallery
ศัพท์กฎหมายฝรั่งเศส
Internet pour le droit
เรื่องอยากเล่า (วิชาการ)
สภากาแฟ Salon d'Aix
คุยกับดอกแก้ว
จดหมายเหตุ
ส่ง e-cartes  virtuelles d'Aix-en-Provence

(กระทู้)การขอทุนเรียนที่ฝรั่งเศส

การปรับหลักสูตรมหาวิทยาลัยของฝรั่งเศส

คู่มือศึกษาต่อในประเทศฝรั่งเศส (โดยสารสนเทศการศึกษาต่อต่างประเทศ)

คู่มื่อเลือกมหาวิทยาลัยในฝรั่งเศส( Guide Lamy des 3es cycles)

โรงเรียนสอนภาษาฝรั่งเศส IEFEE


มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในฝรั่งเศส

มหาวิทยาลัยใน Aix
Université de Provence 
Université de la Mediterranee

Université Paul Cézanne (Universitéde Droit, d'Economie et des Sciences d'Aix-Marseille3)

สถาบันศึกษาอื่น


ที่พักอาศัย
 - ที่พักของมหาวิทยาลัย
( CROUS)

ที่พักของเอกชน
 
- (Estudines)
 
-  (Citadine)  
 -
หาที่พักกับ adele.org
 - หาที่พักกับ office de tourisme
 - พักที่บ้านพักเยาวชน(Auberge de jeunesse)

การขอเงินช่วยเหลือค่าที่พัก(CAF)


การติดต่อที่จำเป็น

การติดต่อขอใบอนุญาตพักอาศัยในประเทศ(Carte de sejour)
 - เอกสารที่ต้องใช้ 1/ 2 /3
 - ติดต่อ
Prefecture des Bouches-du-Rhone
 - (กระทู้Thaiaixoisที่เกี่ยวข้อง)

การประกันสุขภาพ
 - การติดต่อประกันสุขภาพ
Securite sociale)
 - MEP ประกันสุขภาพของนักเรียน(อายุไม่เกิน 25 ปี)
 - Assurance étudiant (อายุไม่เกิน 40 ปี)

อื่น ๆ
 - การทำงานนอกเวลา
 - การต่ออายุหนังสือเดินทาง


ลิงค์เพื่อนบ้าน
Thai Law Reform
สมาคมนักเรียนไทยในรั่งเศส
เพื่อนไทยในเกรอนอบ
เพื่อนไทยในตูลูส
เพื่อนไทยในลียง

ABC-Bittorrent Client โดย pingpong
เพื่อนไทยในเบลเยี่ยม
สำนักงานผู้ดูแลนักเรียนฯ
เล่าข้ามฟ้ากับนาย Baguette
Pokpong's
Nujern's homepage
Café Lunar

Cafe Lunar สาขา 2
Le Journal de TAUNG
Artsstudio

 

 

เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น  VS. นิวเคลียร์เกาหลีเหนือ(กับเด็กไทยเมือง Aix)
 

หญ้าแห้วหมวยหลังยุคมืด

คลิ๊กเพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ

                กลางดึกคืนหนึ่ง....ขณะที่ผมกำลังนั่งทอดหุ่ยด้วยความสบายใจหลังจากผ่านพ้นยุคมืดของชีวิตเน่าๆ ในเมือง Aix-en-Provence แห่งนี้

                ทันใดนั้น โทรศัพท์ของผมก็ตะโกนโวยวายออกมาร้องเรียกให้ผมรีบไปรับสาย !!

                โอ้..แม่เจ้า...ปาปอสซีบเบลอะ เจ้าของต้นสายที่โทรมาหาผมคือบรรณาธิการมหาประลัยประจำเว็ปไซต์เมืองเอ็กซ์ คุณพี่อิ๊ก....

                คนที่ร้อยวันพันปีแทบจะไม่เคยโทรมาหาผมอย่างพี่อิ๊ก ทำให้ผมชะงักเล็กน้อยถึงปานกลางก่อนรับสาย พลางนึกในใจ ชิบหา...กูไปทำอะไรมาวะ...ผมไม่ได้แอบชอบน้องก้อย(นามสมมติ)นะพี่ !!”

                แต่พอกดรับสาย ผมกลับได้ยินคำถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงมหาศาล...

                เฮ้ย...เอ็งอยู่ไหนฟะ

                อยู่ห้องครับพี่...ทำไมเหรอ??

                แต่เท่านั้นแหล่ะ....

บทความเอ็งล่ะ??? ไหนว่าเอ็งจะเขียนบทความ เนี่ยรอตั้งนานไม่เห็นเขียนซะที เห็นวันนั้นเอ็งพูดเรื่องจรวดอะไร ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ !!!!”

          ครับ...กว่าจะถึงบางอ้อ ผมก็โดนเป็นชุดพรุนไปทั้งตัวแล้ว.....

                จริงๆ ผมก็นึกไม่ค่อยออกว่าจะเขียนเรื่องอะไรดีในตอนนี้  เพราะจริงๆ ผมอยากจะเขียนพวกเรื่องราวระหว่างประเทศที่ดูพัวพันๆ ถึงประเทศไทย แต่นึกไปนึกมามันก็มีแต่เรื่องที่โฉบเฉียดเมืองไทยถูไถไปเรื่อยทั้งนั้น อีกทั้งหลังๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องข่าวสารบ้านเมืองอะไรกะเขาเท่าไหร่ เลยไม่กล้าเขียนอะไรออกมา

                นึกไม่ออกจริงๆ ครับ แม้เร็วๆ นี้จะมีการก่อการร้ายที่ประเทศสเปน ความไม่สงบในอิรัก  หรือแม้การที่เดือนพฤษภา อียูจะรับสมาชิกใหม่ 8 ประเทศ เท่าที่ผมพยายามไล่ล่าหาอ่านมา ผมก็เขียนไม่ออกอยู่เหมือนเดิมว่ามันมีผลกระทบต่อไทยอย่างชัดแจ้งอย่างไร

                อย่างเรื่องล่าสุดที่ว่าจะเขียนก็คือเรื่องของประเทศที่กำลังผลิตและสะสมอาวุธนิวเคลียร์ และขีปนาวุธติดหัวรบ (Missile) ระยะไกลที่มีความสามารถในการติดหัวรบนิวเคลียร์ ที่อยู่นอกสนธิสัญญา Le Traité de Non-Prolifération (The Treaty of Non-Proliferation) แปลเป็นไทยง่ายๆ ก็คือสนธิสัญญายกเลิกการผลิตเพิ่มและสะสมอาวุธนิวเคลียร์

                ประเทศที่อยู่ในสนธิสัญญาฉบับนี้ก็มีถึง 188 ประเทศ และมีประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์อย่าง รัสเชีย จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส และยูไนเต็ด สเตต รวมอยู่ด้วย ถึงแม้ว่าประเทศสุดท้ายนั้นจะออกลูกดื้ออยู่(ไม่)บ้าง

                แต่ประเทศที่นอกสนธิสัญญาที่มีอาวุธนิวเคลียร์นั้นก็ได้แก่ประเทศอินเดีย ปากีสถาน และอิสราเอล ส่วนที่คาดกันว่าน่าจะมีนั้นก็ได้แก่ลิเบีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ซึ่งประเทศสุดท้ายนี้ได้รับการยืนยันจากทางรัฐบาลอเมริกันแล้วว่ามีแน่นอนแต่ไม่ทราบจำนวนแน่ชัด ส่วนอิหร่านกับลิเบียนั้น ได้รับการยืนยันเช่นกันว่าไม่มีอาวุธที่ว่า แต่ว่ากันว่าสำหรับอิหร่านได้มีการพยายามสร้างโรงงานผลิตและทดลองอาวุธนิวเคลียร์อยู่โดยได้รับการสนับสนุนจากปากีสถานและรัสเซีย แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันแน่ชัด

 

                แต่ที่แน่ๆ ทุกประเทศนอกสนธิสัญญาที่กล่าวมานั้น มีขีปนาวุธ (Missile) ที่มีความสามารถในการติดหัวรบนิวเคลียร์ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะไกล โดยเฉพาะอินเดียที่กำลังพัฒนาขีปนาวุธระยะไกลโคตร ๆ ที่มีชื่อว่า Agni-3 (น่าจะอ่านว่าอัคนี) ซึ่งจะมีพิสัยการยิงถึง 4,800 กม. และด้วยพิสัยการยิงขนาดนี้ ถ้าไปตั้งฐานยิงอยู่ที่แคว้นอัสสัมชายแดนอินเดีย-พม่า อัดเปรี้ยงเดียวโตเกียวหายทั้งแถบ ขอโทษ... ฉะนั้นอย่าว่าแต่ประเทศไทยเลย

          แต่อย่างว่าครับ ผมเคยเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อชาวอเมริกันว่าเกาหลีเหนือ ปากีสถาน อินเดีย ฯลฯ มีอาวุธนิวเคลียร์ เขาก็ทำหน้าสนใจเหมือนกัน เพราะรู้ว่าประเทศเหล่านี้อยู่ใกล้ประเทศไทย เขาจึงถามผมว่า

ประเทศยูมีปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศกับอินเดียมั้ย

โน

ปากีสถานล่ะ

นง

เกาหลีเหนือ??

ปาดูตู

อ้าว....แล้วยูกลัวอะไร...

เออว่ะ...แล้วกูกลัวอะไรวะ...

จริงๆ ก็พอจะรู้ครับว่าถ้าประเทศเหล่านี้ปล่อยนิวเคลียร์ใส่กัน ถึงจะไม่มาถึงประเทศไทย แต่ผลกระทบลูกโซ่และโดมิโนทางเศรษฐกิจและการเมืองก็คงจะแคนนอนมาถึงขวานทองเป็นแน่แท้

แต่ถามจริงๆ เหอะว่า...มีโอกาสมากขนาดไหนเชียวที่ประเทศพวกนี้จะระเบิดนิวเคลียร์ใส่กัน

เพราะถ้าดูกันตามความเป็นจริงแล้ว อาวุธนิวเคลียร์มันเป็นเครื่องการถ่วงดุลขั้วอำนาจ เป็นเครื่องมือเจรจาต่อรองทางการค้าและเศรษฐกิจและการเมือง มากกว่าจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทำลายล้างทางกายภาพตามศักยภาพของตัวมันเอง

โดยเฉพาะไอ้เรื่องการถ่วงดุลทางอำนาจที่แหล่ะสำคัญ เพราะในทางรัฐศาสตร์การถ่วงดุลทางอำนาจนั้น ก่อให้เกิดความสงบ และตามมาด้วยความสามารถในการทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้

เพราะไม่มีสังคมที่ไหนบนโลกที่ไม่มีความขัดแย้ง แต่ถ้าสองหรือหลายขั้วความขัดแย้งนั้น มีอำนาจพอๆ กัน ก็จะก่อให้เกิดการถ่วงอำนาจกันและกัน เป็นการสมดุลทางอำนาจ ทำให้การทำงานและการพัฒนาสมประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

ฉะนั้น แทบทุกระบบการเมืองของแต่ละประเทศที่(บอกกับตัวเองว่า)เป็นประชาธิปไตยจึงต้องการที่จะสร้างระบบการถ่วงดุลอำนาจนี้ขึ้นมา

ระบบการเมืองระหว่างประเทศก็เช่นกัน หลังจากยุคสงครามเย็นแล้ว ก็เห็นจะมีนิวเคลียร์นี่แหล่ะที่จะเป็นเครื่องมือในการถ่วงดุลอำนาจทางการเมืองและการทูตของแต่ละประเทศที่มีความขัดแย้งกันทางด้านการเมือง

ทำให้ผมรู้สึกว่า นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้คนในแวดวงการเมืองระหว่างประเทศนั้นค่อนข้างกังวลเรื่องเกาหลีเหนือ....

ทำไม??

อย่างการที่อินเดียผลิตและสะสมอาวุธนิวเคลียร์นั้น ก็เพื่อถ่วงดุลอำนาจและความขัดแย้งทางการเมืองกับปากีสถาน

ปัจจุบันอินเดียมีขีปนาวุธที่มีความสามารถในการติดหัวรบนิวเคลียร์คือ Prithvi ที่มีพิสัยการยิง 150 กม. สำหรับถล่มประเทศปากีสถานที่มีชายแดนติดกันขนาดนี้ ระยะยิงขนาดนี้ก็เกินพอ นอกจากนี้อินเดียก็ยังพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลกว่าขึ้นมาอีกคือ Agni 1-2-3 เพื่อจะสามารถถล่มเป้าหมายอื่นๆ ที่อยู่ไกลชายแดนของปากีสถาน ซึ่งหมายเลขหนึ่งนั้นมีพิสัยยิง 1,500 กม. ซึ่งได้มีการทดลองไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ผลที่น่าพอใจ ส่วนหมายเลขสองนั้นมีพิสัยยิง 2,500 กม. ทดลองไปแล้ว และเตรียมที่จะผลิต ส่วนหมายเลขสามอย่างที่กล่าวไปแล้วคือกำลังอยู่ในขั้นพัฒนาอยู่ ส่วนเครื่องบินรบที่มีความสามารถในการติดขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์นั้น ก็มี MIG ของรัสเซีย และ Jaquar ของบริษัทลูกครึ่งฝรั่งเศส-อังกฤษ

ส่วนปากีสถานนั้นได้พัฒนาขีดความสามารถในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์จากจีนและเกาหลีเหนือ ขีปนาวุธที่มีความสามารถในการติดหัวรบนิวเคลียร์นั้นก็มี Ghauri – 1 ที่มีพิสัยยิง 1,600 กม. และ Ghauri – 2 ที่มีพิสัยยิง 2,000 กม. นอกจากนี้ก็ยังมี Shaheen 2 ที่มีพิสัยเท่ากับ Ghauri – 2 แต่ยังไม่ได้ทดลองยิง ส่วนขีปนาวุธระยะใกล้นั้นก็มี M – 11 ที่ได้รับความช่วยเหลือจากจีน ซึ่งมีพิสัยยิงระหว่าง 280 305 กม. แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าติดหัวรบนิวเคลียร์ได้หรือไม่ ส่วนเครื่องบินรบที่ติดขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ได้นั้นก็มี F-16 ของอเมริกา

ส่วนการที่อิหร่านพยายามพัฒนาความสามารถในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์นั้น ก็เพื่อที่จะถ่วงดุลกับอิสราเอล รวมทั้งประเทศอื่นๆ ที่อเมริกาเข้ามาแทรกแซง เพราะศัตรูทางการเมืองตัวเอ้อย่างอเมริกาดันมีฐานทัพจ่ออยู่หน้าบ้านตรงประเทศซาอุดิอาระเบีย

ปัจจุบัน จากภาพถ่ายทางดาวเทียมเมื่อราวสิ้นปี 2002 ได้ปรากฏสิ่งก่อสร้างที่เป็นโรงงานซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่าอิหร่านได้พยายามดำเนินการพัฒนาความสามารถในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แม้ทางการอิหร่านจะมายืนยันว่าเป็นโรงงานปฏิกรณ์นิวเคลียร์จริง แต่ใช้ในทางพลเรือน ไม่ใช่เพื่อการทหาร

ส่วนสำหรับขีปนาวุธพิสัยไกลที่(เชื่อว่า)ติดหัวรบนิวเคลียร์ได้นั้นก็มี Shahab-3 ซึ่งมีพิสัยยิง 1,500 กม. ซึ่งก็หมายความว่าอย่าว่าแต่ยิงถึงอิสราเอลเลย มันสามารถยิงทะลุไปตกเมดิเตอเรเนียนและไซปรัสได้ด้วยซ้ำไป ซึ่งเจ้า Shahab-3 นี้ได้รับความร่วมมือจากเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ อิหร่านยังกำลังพัฒนา Shahab-4 ที่มีพิสัยการยิง 2,010 กม. ซึ่งปัจจุบันอิหร่านได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย และปากีสถาน

ส่วนอิสราเอลนั้น ไม่ต้องเดาเลยว่ามีอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ เพราะรู้กันทั้งโลกแล้วว่ามี คาดกันว่ามีอยู่ราว 98 172 หัวรบ ว่ากันว่าในระยะเริ่มแรกที่ผลิตอาวุธนิวเคลียร์เหล่านี้นั้นก็ได้ความช่วยเหลือจากประเทศฝรั่งเศสนี่แหล่ะ

ปัจจุบันอิสราเอลมีขีปนาวุธที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้คือ Jericho-1และ2 ซึ่งหมายเลขหนึ่งมีพิสัยยิง 480 กม. ส่วนหมายเลขสองมีพิสัยยิง 1,500 กม. ส่วนเครื่องบินรบที่มีความสามารถในการติดขีปนาวุธที่ติดหัวรบนิวเคลียร์นั้นก็คือ F-16 และ F-15I  ชื่อก็บอกยี่ห้อว่าเมดอินยูเอสเอ ยิ่งไปกว่านั้น ปัจจุบันอิสราเอลกำลังพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์ใต้น้ำ คาดว่าคงเอาไว้ซัดกับอียิปต์คู่รักคู่แค้น

ส่วนคู่อื่นๆ ก็มีรัสเซียกับอเมริกา จีนกับอเมริกา ฝรั่งเศสกับอังกฤษ ซึ่งถ่วงดุลกันได้สมน้ำสมเนื้อ

แต่.....เกาหลีเหนือ เฮียแกถ่วงดุลกับใคร

ไปดูฐานข้อมูลของเกาหลีเหนือเสียก่อน...

เป็นที่แน่นอนรับว่า ปัจจุบันเกาหลีเหนือกลายเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ไม่ใช่ย่อย โดยเฉพาะขีปนาวุธสมรรถนะแม่นยำ ซึ่งมีประเทศอย่างอียิปต์ อิหร่าน ลิเบีย ปากีสถาน และซีเรียเป็นผู้นำเข้า

เกาหลีเหนือได้พัฒนาอาวุธเหล่านี้อย่างเต็มกระบอกสูบมาเป็นเวลานานแล้ว ปัจจุบันเกาหลีเหนือมีขีปนาวุธพิสัยยิง 1,000 กม. และ 1,300 กม ซึ่งได้พัฒนาตามคอนเส็ปต์ของ SCUD ของรัสเซีย ซึ่งไอ้เจ้า 1,300 กม นี่แหล่ะที่เป็นเรื่องเป็นราวกับญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้ เพราะพิสัยยิงขนาดนี้ถึงญี่ปุ่นสบายๆ ยิ่งก่อนหน้านี้ยังทำการทดลองยิงแซวเล่นไปตกในทะเลญี่ปุ่น ทำเอาญี่ปุ่นขวัญผวาพอๆ กับเจอคนไทยที่ Aix

นอกจากนี้ยังมีข่าวซุบซิบวงในไฮโซกันว่า เกาหลีเหนือกำลังจะพัฒนาขีปนาวุธ ที่มีชื่อว่า Taepo-Dong-2 ที่มีพิสัยยิงข้ามหัวญี่ปุ่นไปตกฝั่งตะวันตกของอเมริกา

ในภูมิภาคแถบนี้ ประเทศที่มีนิวเคลียร์นอกจากเกาหลีเหนือแล้ว ก็มีรัสเซียและจีน ซึ่งสองประเทศนี้หาใช่เป็นศัตรูกับเกาหลีเหนือไม่

รอบเกาหลีเหนือก็มีเพียงเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นเท่านั้น ที่ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือพุ่งถึง และที่สำคัญรอบเกาหลีเหนือไม่มีประเทศใดเลยที่จะมีขีปนาวุธสมน้ำสมเนื้อที่มีพิสัยเพียงพอที่จะพุ่งไปถึงเกาหลีเหนือ

แถมดูลักษณะโหงวเฮ้งของผู้นำเกาหลีเหนือแล้ว ก็ดูท่าทางจะบ้าพอหากจะต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์

ฉะนั้นการเมืองรอบๆ รัศมี 1,300 กม. จากเกาหลีเหนือนั้น จึงระอุได้ที่ จนต้องเปิดประชุมพหุภาคีกันซึ่งประกอบไปด้วยอเมริกา จีน รัสเซีย ญี่ปุ่น และสองเกาหลีที่ไม่ใช่หมวยหนึ่งและหมวยสอง ซึ่งไม่ค่อยจะได้เรื่องสักเท่าไหร่...เพราะไม่มีใครที่จะสามารถมาถ่วงดุลเกาหลีเหนือได้อย่างจริงจัง

การที่เกาหลีเหนือตัดขาดจากโลกภายนอกก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากเกาหลีเหนือเข้ามาอยู่ในโลกแบบที่ประเทศไทยอยู่นั้น การค้าเสรี การซื้อขายระหว่างประเทศ ค่าเงินลอยตัว ระบบการเงินที่สัมพันธ์สวาทกับต่างชาติ  ฯลฯ เหล่านี้ จะมีกลไกต่างๆ ที่จะฉุดรั้งกระชากถูหากเกาหลีเหนือทำตัวเหมือนในตอนนี้

ลองนึกถึงไทยสิครับ อย่าว่าแต่อาวุธนิวเคลียร์เลย ประมงกุ้ง น้ำเน่า ปะการังตาย แ-่ง..กุ้งไทยก็โดนแบน ต่อไปถ้ารัฐมนตรีบ้านเราสักคนมีชู้ ข้าวไทยคงโดนแบน....

แต่เกาหลีเหนือแทบไม่ได้ติดต่อกับชาวบ้านชาวช่องเลย แถมดันมีอาวุธนิวเคลียร์อีก ประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอเมริกาเลยนั่งกุมขมับ มึง...เอ๊ย...คุณจะเอายังไง

อเมริกาไม่กลัวหรอกครับว่าเกาหลีเหนือจะมีนิวเคลียร์กี่ลูก หรือเกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธถึงอเมริกาหรือไม่ เพราะยังไงแล้ว มีความเป็นไปได้น้อยมากครับที่เกาหลีเหนือจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ เพราะไม่รู้จะใช้ไปทำซากอะไร หรือถ้าหากใช้จริง ยิงไปถึงแคลิฟอเนียสักลูก เกาหลีเหนือคงโดนถล่มกลับจากอเมริกาเป็นสิบ ผมไม่เชื่อหรอกว่าเกาหลีเหนือจะมีหัวรบนิวเคลียร์เกินร้อยลูก ส่วนอเมริกาน่ะ มีเป็นหมื่นลูก

ที่อเมริกากลัวก็คือเกาหลีเหนือจะไปขายและช่วยเหลือเทคโนโลยีด้านนิวเคลียร์ให้กับประเทศที่เป็นศัตรูกับอเมริกามากกว่าอย่างพวกประเทศแถบตะวันออกกลางทั้งหลายที่มีกำลังซื้อ

ฉะนั้น ถ้าหากผมเป็นผู้นำเกาหลีเหนือตอนนี้ ผมคงผลิตไปเรื่อยๆ สักสิบลูกท่าจะดี แบนไม่ขายน้ำมันให้กูใช่มะ อ๊ะ..กูก็ผลิตเพิ่มอีกลูก ไม่ช่วยกูด้านการเงินใช่มะ อ๊ะ...กูก็เอาเทคโนโลยีไปขายชาวบ้านก็ได้ อยากให้กูลดอาวุธนิวเคลียร์ใช่มะ...อ๊ะ...ก็ขายของให้กูถูกๆ ดิ ไม่มีเงินอุดหนุนกู อ๊ะ...เดี๋ยวกูก็แกล้งทดลองอาวุธลงทะเลญี่ปุ่นสักลูกสองลูก

ทำตัวเหมือนเด็กอย่างนี้ไปเรื่อยๆ สนุกจะตาย ลองนึกดูถ้าเกาหลีใต้หรือญี่ปุ่นมีอาวุธนิวเคลียร์ เกาหลีเหนือก็คงจะเล่นการเมืองระหว่างประเทศแบบนี้ไม่ได้หรอก เพราะมีการถ่วงดุลอำนาจภายในภูมิภาค

ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างที่ประกอบกันอย่างนี้จึงทำให้อาวุธนิวเคลียร์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศเกาหลีเหนือตราบใดที่ยังไม่ใช้มัน

พล่ามได้มาถึงตรงนี้ก็แค่เพียงอยากจะบอกว่า ถ้าจะศึกษาเรื่องนิวเคลียร์ อย่าตั้งคำถามว่าประเทศนั้นประเทศนี้ที่มีอาวุธนิวเคลียร์ จะเอานิวเคลียร์ไปทำอะไร แต่ต้องถามว่าประเทศเหล่านั้นได้อะไรจากอาวุธนิวเคลียร์มากกว่า เพราะมันไม่ใช่อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่มันเป็นถึงตัวแสดงที่สำคัญระหว่างประเทศเลยทีเดียว

ตอนนี้เรื่องปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือก็เริ่มซาลงไป เพราะมีเรื่องอื่นๆ อีกมากมายเกิดขึ้นบนโลกเน่าๆ ใบนี้ ตอนนี้เกาหลีใต้กับญี่ปุ่นก็มองกันตาปริบๆ พลางนึกในใจว่า อย่าให้กูมีบ้างนะมึง

แต่ไม่เป็นไรครับ คุณเกาหลีเหนือ ไม่ต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์อะไรหรอก เพราะเด็กไทยเมือง Aix ที่ถึงแม้จะไม่มีอาวุธนิวเคลียร์อะไรกะเข้าเลย เขาก็ได้ช่วยคุณถล่มเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นไปเรียบร้อยแล้ว !?!?!?

 

คลิ๊กเพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ

รายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องขีปนาวุธ : http://www.missilethreat.com/missiles/