 |
||||||||||||
|
|
||||||||||||
|
ดู TV
ฟังวิทยุ อ่าน นสพ. การ
Set
เพื่อพิมพ์ไทยโทรกลับไทย
IRADIUMโทรกลับไทย
Telerabaisที่ตั้งและแผนที่
Aixการเดินทางและตารางรถ ตารางรถประจำทางใน
AIXตารางรถไป
Marseille
และ
Plan de campagneตารางรถPays
d'Aix ไป Planสภาพอากาศประจำวัน 
ที่
Aix-en-Provence
การติดต่อที่จำเป็น ลิงค์เพื่อนบ้าน |
จดหมายจากประเทศไทย : ภาคเรื่อยเปื่อย สด ตก ไม่งอก หญ้าแห้วหมวยอารมณ์แพนด้า(มิ้ม The Virgin)
จบไปแล้ว(จนได้)...สำหรับบอลยูโร 2004 ที่มีตำนานบทใหม่ปรากฏอย่างน่ากระทืบ... ผมเอง ถือว่าโชคดีและโชคร้ายที่อยู่ประเทศไทยท่ามกลางมรสุมยูโรฟีเวอร์ ที่ว่าโชคดีก็เพราะผมมีโอกาสได้สัมผัสแมชต์ฟุตบอลยูโรผ่านหน้าจอได้ทุกแมชต์ ซึ่งผมเองก็บ้าพอที่จะดูมันทุกแมชต์เช่นกัน แต่ที่ว่าโชคร้ายก็เพราะผมได้ดูมันทุกแมชต์นี่แหล่ะจนวันๆ แทบไม่ต้องทำเฮี้ยกอะไรเลย กลางวันมีไว้ง่วง กลางคืนมีไว้ดูบอล นอนตีสี่ตื่นเก้าโมงเป็นวัฐจักร และคาดว่าหลังจากยูโรวายแล้ว คงจะยูโรแหล็กต่ออีกหลายวันหลายคืน .............................................................
กรีซกลายเป็นทีมล่าสุดที่ครองความเป็นยอดสุด สุดยอดของทวีปยุโรป กองเชียร์ของกรีซเองก็บรรลุจุดสุดยอดของตัวเองโดยไม่ต้องให้ใครมาช่วย ว่ากันว่าแทบจะเอาวันที่ชนะเลิศเป็นวันหยุดราชการประจำปี ว่าเข้านั่น สงสัยแค่นอนกลางวันมันคงไม่พอ ยูโรจบไปแล้ว แล้วผมก็จะได้เข้าสู่วงจรชีวิตเน่าๆ ของผมสักที .......................................................
จริงๆ ครั้งนี้ผมไม่มีอะไรจะเขียนเหมือนกัน ผมเองก็เพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่ ลุยพัทยา แล้วไปร้อนตับแตกดูสะพานมรณะที่มีทหารประเทศบรรพบุรุษของใครบางคนมาบังคับแรงงานและเชลยศึกสร้างขึ้นที่แลกมาด้วยกับชีวิตหลายชีวิตที่เมืองกาญจน์มา เกลียดมัน... ในเวลานี้มีหลายอย่างครับ ที่เปลี่ยนไปบนพื้นดินแหลมทองแห่งนี้ และแน่นอน แต่หลายที่มันก็ยังเหมือนเดิมอย่างน่ากลัว ให้ตายดิ ......................................................
ผมเพิ่งพาตัวเองขับรถขึ้นเชียงใหม่มา หลายอย่างยังคงไม่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะสภาพถนนตั้งแต่นครสวรรค์ถึงกำแพงเพชรที่ยังอุบาทว์กว่าพื้นผิวดวงจันทร์ไม่เปลี่ยนแปลง แต่สำหรับเชียงใหม่แล้ว ตั้งแต่พวกเขามีนายกฯ เป็นของตัวเอง มันถูกพัฒนาเจริญเอาเจริญเอาขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่เกรงใจฟ้าดิน แม้การเปลี่ยนแปลงจะเห็นไม่เด่นชัดทางกายภาพ แต่ถ้าถามๆ ไถ่ๆ ชาวบ้านแล้ว มันคงเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เป็นนิมิตรหมายอันดีที่นโยบายกวาดล้างยาเสพย์ติด หวยเถื่อน อบายมุข ได้รับการปฏิบัติอย่างแข็งขันในเชียงใหม่ จนคนในต่างอำเภอจนลงกันไปตามๆ กัน แน่นอน....เงินนอกกฎหมายพวกนี้ มันเข้าไปอยู่ในระบบการดำเนินชีวิตของผู้คนไปแล้ว เงินค้ายาบ้า เงินหวยใต้ดิน มันกลายเป็นกองทุนหมู่บ้านหมุนเวียนจุนเจือเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างคุ้นเคยเหมือนแม่ยาย ปัจจุบันมันหายไปแล้ว!!! กองทุนหมู่บ้านอะไรนี่ อย่าไปหวังกะมันเลยครับ เพราะแทบทุกคนในบ้านนอกภาคเหนือบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีเงินแล้ว(โว้ยยย...) อีกอย่างหนึ่ง...ว่ากันว่า...เชียงใหม่มีโครงการจะทำรถ Tram!!! กราบตีนครับว่าอย่าทำเลย แค่รถเมล์ก็เจ๊งคลั่งตาย แถมทุกวันนี้รถสองแถวก็ไม่ค่อยมีใครใช้กันแล้ว คนเชียงใหม่ไม่มีวัฒนธรรมในการใช้บริการขนส่งสาธารณะมากจนทำกำไรได้หรอกครับ แถมจะทำเมืองและจราจรเจ๊งอีกตะหาก .........................................................
ทุกครั้ง...แน่นอน...หลังฟุตบอลรายการใหญ่ๆ เช่นบอลยูโร หรือบอลโลก ปรากฏการ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำตั้งแต่พี่ธี(นามสมมติ)ยังหนุ่มก็คือ กองไปรษณียบัตรกองมหึมาที่ส่งมาทายผลบอล หวังรวยทางลัดของสังคมไทย ปีนี้ก็เช่นกัน ได้ข่าวจำนวนล่าสุดกว่า 107 ล้านฉบับแล้ว ที่ไปกองอยู่ที่ไทยรัฐ เจ้าไปรษณียบัตรพวกนี้มีประโยชน์อะไร.... 1. เพิ่มความสยิวในความรู้สึกของคนในสังคม ให้ชีวิตนี้ได้ลุ้นอะไรกับเข้าบ้าง 2. รายได้เข้าบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด 3. รายได้เข้าไทยรัฐ 4. เอาไว้ให้ดารามาเยี่ยม... ครับ...ช่วงนี้เป็นช่วงที่เหล่าดารานักร้องฉวยโอกาสออกหน้าหนังสือพิมพ์โดยเข้ามาเยี่ยมดู กองไปรษณียบัตรมหึมา ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะเยี่ยมหาหอกอะไร ช่วยเค้าก็ไม่ช่วย เอาแต่ยิ้มถ่ายรูป ใครให้คำตอบผมได้ ช่วยตอบผมทีเถอะ ..............................................
ช่วงนี้ว่ากันว่าเป็นช่วงกลียุคของเกษตรกรไทย ที่ท่านนายกของเราไปเซ็น FTA (Free Trade Agreement) หรือการค้าเสรีระดับทวิภาคีกับออสเตรเลียมา... ว่ากันว่า เราจะได้ประโยชน์มหาศาลกับธุรกิจจำพวกเหล็ก(ของใครบางคน) อุตสาหกรรมรถยนต์(ของใครบางคน) แถมขายดาวเทียม(ของใครบางคน)ได้อีก ส่วนระดับเกษตรกร ว่ากันว่าเราจะได้รับประโยชน์ในช่วงแรกๆ อย่างน้อยก็สิบปี(ล่ะวะ) ที่เราจะสามารถส่งสินค้าเกษตรไปขายที่ออสเตรเลียได้โดยไม่โดนกำแพงภาษีล้มทับ แต่ในทางกลับกัน...ออสเตรเลียก็สามารถส่งสินค้าเกษตรเข้าเมืองไทยโดยไม่โดนกำแพงภาษีเช่นกัน แต่จะเป็นไปในรูปแบบลดภาษีแบบค่อยเป็นค่อยไป กว่าจะลงไปเป็น 0% ก็ราวๆ สิบห้าปีโน้น... เป็นการตายอย่างช้าๆ ของเกษตรกรไทย.... คิดง่ายๆ ไม่ต้องเอาทฤษฎีตัวเลขอะไรมาวุ่นวายหัวใจและเปลืองสมอง คุณคิดว่าคนไทยทั่วๆ ไปเห็นเนื้อวัวไทยกับเนื้อวัวออสเตรเลียวางขายที่เดียวกัน ราคาเท่าๆ กัน เค้าจะหยิบอะไร ฮิ นอกจากนี้พวกเนื้อแกะ หรือผลิตภัณฑ์นม หรือชีส หรือไวน์ เกษตรกรไทยคงจะมีปัญญาสู้มันอยู่หรอกครับ แค่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็พะงาบพะงาบใกล้ตายเต็มแก่ ใครติดตามข่าวแล้ว...ว่ากันว่าการทำสัญญาครั้งนี้ผิดรัฐธรรมนูญด้วย เอ้า...ช่วยกันวิเคราะห์หน่อย มิน่าล่ะ แกถึงบอกว่า คนจนจะหมดไปภายในหกปี(เพราะตายหมด) ...............................................
ตอนนี้ถนนในกรุงเทพฯ จะกลายเป็นเส้นทางเดินของหอยทากไป เมื่อทางรัฐบาล(เผด็จการนักธุรกิจ) ออกกฎเหล็กผสมกราไฟต์ว่าห้าม!! ห้ามขับรถเร็วเกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง... หลังจากมีการห้ามไม่ให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีออกบ้านหลังสี่ทุ่มโดยลำพัง (บังคับกันยิ่งกว่าเมืองจีนซะอีก) ไม่ทราบว่าจะจำกัดความเร็วแค่นี้ไปทำหอกอะไรครับ??? ผมเองก็ยังไม่ทราบเหตุผลเหมือนกันว่าจะทำไปเพื่ออะไร เพราะไอ้ถนนเล็กๆ แคบๆ คนเยอะๆ รถมากๆ ใคร...มันจะวิ่งได้เร็วขนาดนั้น ส่วนไอ้ถนนใหญ่ๆ อย่างวิภาวดี-รังสิต เกษตร-นวมินทร์ หรือจะเป็นบรมราชินี ถ้าจะให้วิ่งได้แค่นั้น จะสร้างถนนแดกงบใหญ่ๆ ทำซากอะไร ถ้าจำกัดไว้สักร้อยยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ว่าไปอย่าง ดังนั้นจึงมีคนหล่นเหตุผลกันออกมาว่า.... 1. ประหยัดพลังงาน...อืม...เหตุผลนี้มันก็ประหลาดในที เพราะวิ่งที่เก้าสิบมันจะประหยัดพลังงานได้เท่าไหร่เชียว เพราะเหตุผลของการสิ้นเปลืองน้ำมันคือ · ขับรถลากรอบ · รถติดนานๆ มากกว่าที่จะวิ่งกันเร็วๆ เพราะเดี๋ยวนี้รถสมัยใหม่ๆ อัตราทดเฟืองท้ายมันไม่สูงอย่างรถรุ่นพระเจ้าเหาเตะปี๊บดัง อย่างรถผมรุ่นเมื่อ 12 ปีที่แล้ว เมื่อขับความเร็วสัก 100 กม./ชม. อัตราทดรอบจะอยู่ที่ราว 3000 รอบต่อนาที ส่วนรถเดี๋ยวนี้ขับร้อยเดียวนี่อัตราทดรองอยู่ที่ไม่ถึง 2000 รอบต่อนาทีเลยคุณ ฉะนั้นเลยมีคนให้เหตุผลอีกว่า... 2. เพราะต้องการ(แอบ)เพิ่มยอดขายของรถยนต์ขนาดเล็กที่เครื่องยนต์ไม่ถึง 1500 ซีซีบางรุ่น ที่มีคนวงในมีเอี่ยวกันอยู่ เอ้า...คิดไปกันได้...ไปนู่นเลย... ...........................................................
ปิดท้ายด้วยเรื่องสยิวๆ กันบ้าง กับสี่สาวนักร้อง ค่าย RS ส่งเข้าประกวด นาม Girly Berry ที่ตอนนี้กลายเป็นข่าวพาดหัวไปแล้ว เพราะมีหลายฝ่ายออกมาติงถึงความเหมาะสมของมิวสิควีดิโอที่ออกมาโปรโมต หรือเมืองไทยจะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว... ก็อีหนูสี่สาวที่เพิ่งอยู่ปีหนึ่งปีสองมหาลัย เธอเล่นนุ่งน้อยห่มน้อย แถมเต้นส่ายตูดกันในสภาพไร้กระดูกเชิงกรานและก้นกบ โยกขึ้นโยกลง โขยกตัวเองเสียตัวให้กับกล้อง ราวกับสวมวิญญาณนักร้องขายเซ็กส์ของบางประเทศที่อ้างว่าชอบธรรม(ทำ)ในการไปข่มขืนอิรัก แม้แต่เพลงช้า อีหนูสู้ทุกท่าพวกนี้มันก็ยังเต้นส่ายตูด มิวสิคแต่ละตัวก็โคตรส่อ หากใครไม่อ่อนโลกอย่างดัดจริตชน ยังไงก็ต้องดูออก นี่มันขายเพลงหรือขายตัว?? ดูแล้ว คนอย่างผมคงจะไม่ซื้อเทปหรือซีดีของอีหนูพวกนี้แน่นอน (คงจะข้ามไปซื้อวีซีดีเลย....) ..............................................................
ไร้สาระมาก ไปก่อนดีกว่า....
(กลับไปข้างบน) /(กลับไปหน้าแรก) / (กลับไปหน้าแรก salon)
สงวนลิขสิทธิ์ © 2003
|
|||||||||||
