![]() |
||||||||||||
|
||||||||||||
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() สภาพอากาศประจำวัน ![]()
ที่
Aix-en-Provence
การติดต่อที่จำเป็น ลิงค์เพื่อนบ้าน |
จดหมายจากประเทศไทย : ตอนบอลไทยจะไปบอลโลก หญ้าแห้วหมวยบนยอดหญ้า
หวัดดีกันอีกครั้ง แฟนๆ ชาวเอ็กซองโพรวองซ์อันแสนเศร้าทุกคน.... ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะหวังว่าคงสบายดี(โดยเฉพาะเฮียช้าง กงสุลไทยประจำเมืองเอ็กซ์ผู้สถาปนาตัวเองเป็นเจ้าพ่อ IPN อย่างเป็นทางการ) ผมกลับมาประเทศไทยในช่วงที่พระพิรุณขยันทำงานหามรุ่งหามค่ำ เล่นเอาบรรยากาศเหงาแทบคลั่ง แถมยังร้อนชื้นบิดาเดี้ยง อยู่มาสองอาทิตย์รู้สึกได้เลยว่าประเทศไทยถึงคราวกลียุคอย่างแท้จริง ...............................................
19.00 น. วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2547.... ผมไปทำสิ่งที่ผิดพลาดในชีวิตมาอย่างหนึ่ง.... ผมได้พาหุ่นอ้วนอวบอั๋น และรถโทรมๆ ของผม ผจญมิกสัญญีบนท้องถนนรามคำแหง เพื่อมุ่งหน้าไปยังสนามฟุตบอลที่ใหญ่และน่าเกลียดที่สุดในประเทศไทย “ราชมังคลากีฬาสถาน”
ในวันนั้น ผมและเพื่อนคนไทยอีกราวสี่หมื่นห้าหมื่นคน พร้อมใจมีนัดกับตัวเอง ณ ที่ฟุตบอลสถานแห่งนี้เพื่อเข้าชมและเป็นกำลังใจให้กับขุนพลช้างพลายในการฟาดแข้งกับทีมโสมสีแดง เกาหลีเหนือในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเซีย กลุ่มห้า แม้จะเป็นแดนโสม แต่ก็เป็นโสมสีแดง(ไม่ใช่โสมสีขาว) ฉะนั้นจะให้ผมปันใจจากทีมชาติไทยสุดเลิฟไปเชียร์นั้น อย่าหวัง!!! เหมือนทุกครั้ง ก่อนที่ผมจะตัดสินใจจ่ายเงินด้วยแบงค์แดงสามใบเข้าชมการแข่งขันนัดนี้ ผมคิดแล้วคิดสี่กว่ายี่สิบสี่ตลบครึ่งว่า “กูจะไปดูมันดีมั้ยวะ ไอ้ทีมชาติไทยเนี่ย!!” ก่อนการแข่งขันนัดนี้ เป็นที่อเน็ถอนาถของปวงชนชาวไทยเหลือเกิน เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าทีมชาติไทยชุดนี้ เป็นทีมชาติชุดปูชนียบุคคลอย่างแท้จริง!!! ทีมชาติไทยชุดอายุต่ำกว่า 40 ปีชุดนี้ ยังมีส่วนผสมรุ่นเหนียงยาน กรุเก่า พิมพ์นิยม เป็นเศษซากของดรีมทีมชุดฝันกลางวันของคนไทยทั้งประเทศ
ไม่น่าเชื่อว่าทีมชาติชุดนี้ยังมีชื่อของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ตะวัน ศรีปาน, ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล, และดุสิต เฉลิมแสน โชคดีแค่ไหนแล้ว ที่ไม่มีปิยะพงศ์ ผิวอ่อน, หรือเนติพงศ์ ศรีทองอิน มาเล่นด้วย... แล้วไอ้ทีมชาติไทยชุดความหวัง(ลมๆ แล้งๆ) ชุดนี้ เมื่อครั้งที่ไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่เชียงใหม่ ก็มีข่าวอื้อฉาวเสื่อมถอยอับอายไปทั้งบาง เพราะตัวนักเตะออกมาบ่นอุบว่า “ทุเรศ เอี้ย เอี้ย ครับ...นี่ผมติดทีมชาติไทย หรือติดทีมชาติบูกินา ฟาโซ กันแน่เนี่ย... มาฝึกซ้อมเก็บตัวคัดบอลโลกแท้ๆ แต่แ..ม่...ง.. ไม่มีข้าวจะกิน” เป็นความจริงครับ นักเตะทีมชาติไทยออกมาบ่นว่าทาง กกท. เลี้ยงข้าวได้คุณภาพระดับเรือนจำคลองเปรม แถมโรงอาหารก็มีแมลงวันสี่ห้าโขลงใหญ่มาเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะ และเป็นตัวนักฟุตบอลเอง ที่ต้องไปซื้อมาม่ามาโซ้ยเอง.... นักฟุตบอล + ทีมชาติไทย + มาม่า เฮ้ย...นี่มันเก็บตัวบอลโลกรอบคัดเลือกนะว้อย ไม่ใช่แข่งกับอาร์เอส สตาร์ทีม!! และการที่หัวหน้าสตาฟโค้ชชาวแซมบ้าออกมากล่าวว่า... “ทีมชาติไทยชุดนี้ ไอว่ามีความฟิตสุดๆ พอๆ กับนักกีฬาสนุกเกอร์เลย...” แหงล่ะครับ เป็นถึงนักกีฬาทีมชาติ แต่ระบบโภชนาการแบบมาม่า วิ่งได้ก็บุญแล้ว นี่สมาคมฟุตบอลมันจนถึงขนาดไม่มีตังค์ให้นักเตะกินข้าวเลยรึไงฟะ ใครจะไปเชื่อ... เจออย่างนี้ ใครจะไปฟิตได้ฟะ.... นอกเรื่องไปไกลเลย.... กลับมาที่ ราชมัคลาฯ แต่สุดท้าย แม้ในใจจะสังหรณ์ว่าจะมาเสียตังค์เปล่า แต่ผมเบื่อไอ้พวกนักข่าว พวกสมาคมฟุตบอล พวกปากหอยปากปู ที่ชอบกระแนะกระแหนว่าคนไทยไม่ค่อยให้การสนับสนุนฟุตบอลไทย ทีมชาติแข่งไม่ชอบไปดูที่สนาม เอาแต่อยู่บ้านตีพุงดูถ่ายทอดสด มันไม่รักบอลไทย เอาแต่เชียร์แมนฯยู อาร์เซน่อล และจะซื้อลิเวอร์พูล ทุเรศๆๆๆ.... แม้ว่าจะติดตังค์พี่เอกอยู่หลายพัน แต่ผมก็ต้องตัดสินใจไปควักเงินสนับสนุนบอลไทยกันหน่อย ก็เหมือนทุกครั้งอีกนั่นแหล่ะ ที่ผมคิดว่าพอไปถึงสนาม อัฒจรรย์คงจะโล่งโหลงเหลง เพราะแข่งกันวันพุธ รถก็ติด ฝนก็ตก ใครที่ไหนมันรักบอลไทยขนาดถ่อสังขารมาเชียร์ แต่ผิดคาดครับ...คลื่นมหาชนแห่กันมาชมเกมนัดนี้อย่างหนาตา อย่างไม่น่าเชื่อ(ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นคนพื้นเพเดียวกับอาจารย์ธีระ(นามสมมติ)ก็ตาม) ไหนใครว่าคนไทยไม่รักบอล เห็นแบบนี้ ก็เงียบปากไปได้ซะที เข้าใจมั้ย!!!
และงานนี้คุณพ่อน้องอุ๊งอิ๊งก็มานั่งชมอยู่ด้วย ท่ามกลางเสียงปรบมือและเสียงโห่ต้อนรับ บ่งบอกได้ชัดว่าสภาพคะแนนนิยมของท่านตอนนี้เป็นอย่างไร.. ...........................................
นักฟุตบอลเดินลงสนามมาแล้วครับ....นักเตะพลังมาม่าของเราวันนั้นใส่เสื้อสีน้ำเงิน เดินผอมโซ เหมือนคนไม่มีแรงลงสนาม ผิดกับโสมแดงที่ประเทศถูกตราหน้าว่าทุโภชนาการสุดๆ กลับเดินลงมาด้วยร่างกายอันบึกบึน ใหญ่โต... วันนี้เรามาด้วยมาด 3-5-2 อย่างที่คุ้นเคยกัน... บอลเขี่ยแล้วครับ ทีมชาติไทยสวมวิญญาน โทนี่ จา วิ่งสู้พัดก้มหน้าห้มตา โยนๆๆๆ บอลใส่หน้าโกล์ของเกาหลีเหนือ เอ่อ...พี่...ไม่มีใครบอกเหรอว่ากองหน้าของพวกมึง..เอ๊ย!! พวกคุณ มันเตี้ย ไม่มีใครบอกเหรอ...ฮ้า....
นาทีที่ยี่สิบ ซิโก้...มีโอกาสหวดเต็มตีนจากจังหวะเข้าซ้ำที่ผู้รักษาประตูเกาหลีเหนือรับกระฉอกออกมา ห้าหลาอีกแล้วครับท่านผู้ชม บอลพุ่งไปชนคาน กระดอนลงพื้น แล้วเด้งออกไป หลายคนในสนามถึงกะบ่นว่า จะยิงเต็มแรงไปทำไมฟะ.... นาทีนี้ หลายคนคิดถึงศรายุทธ ชัยคำดี หรือโจ้ ห้าหลา ซึ่งก็ลงเป็นตัวจริงเหมือนกัน แต่ไม่ได้ยิงเวรอะไรเลย เหมือนกะลงไปให้ครบสิบเอ็ดคนเท่านั้น ถ้าเป็นเฮียโจ้ ป่านนี้ไทยนำสองลูกแล้ว อารายจะห้าหลาพอดีขนาดน้านนน.... แต่...แม้จะเป็นแค่ต้นเกม แต่ผมรู้สึกว่าบอลไทยมันไร้เรี่ยวแรงยังไงก็ไม่รู้ วิ่งน่ะวิ่งได้ แต่วิ่งๆ ไปยิง ดูลูกไม่มีแรงยังไงก็ไม่รู้ ส่วนรูปร่างไม่ต้องพูดถึง เหมือนกินผักจิ้มปลาร้าบองเป็นอาหารประจำ ไม่รู้ที่บ้านกินข้าวหรือกินขี้!! หลังจากผ่านครึ่งชั่วโมงแรกไป เกมบอลไทยก็หยุดไปดื้อๆ จากสูตร 3-5-2 ก็กลายมาเป็นสูตรที่คุ้นเคยอีกครั้งคือ 8-0-2 เล่นไปสักพักเป็น 5-5-0 เล่นไปสักพักเป็น 8-1-1 จนเกือบหมดครึ่งแรกก็กลายเป็น 9-0-1 โดยสมบูรณ์ แถมก่อนหมดครึ่งแรกโดนสอยไปหนึ่งลูกอีกตะหาก จากความผิดพลาดอย่างเห็นได้ชัดของดุสิต เฉลิมแสน(เจ้าเก่า อีกแล้ว) ที่ขึ้นไปเสียบอลกลางสนาม จ่ายลูกจะถูกจ่ายไปที่กองหน้า หลุดไปทางฝั่งซ้ายของทีมไทยที่เฮียดุสิตเสียตำแหน่งทันที และสิ่งที่กองหน้าโสมแดงทำก็คือ จิ้ม...วิ่ง...จิ้ม...วิ่ง...จิ้ม...วิ่ง...ยิง!!! ผ่านมือง่ายๆ ขโมยซีนออกนำไป 1-0... หมดครึ่งแรก....คนไทยเซ็งทั้งสนาม... นาทีนี้ ผมเป็นอีกคนที่ยืนยันมานานแล้วว่าคุณดุสิต ควรจะไปขายน้ำเต้าหู้ได้แล้ว...หรือกลับไปกระทืบบ๋อยอย่างเดิมจะเวิร์คกว่า... ........................................
ครึ่งหลังเริ่มขึ้นด้วยการเปลี่ยนตัวของทีมไทยที่ถอดเอาพิชิตพงษ์ เฉยฉิว ที่ได้บอลนับครั้งได้ออก และส่งกองกลางรุ่นกรุเก่าดรีมทีม ตะวัน ศรีปาน ลงมาแทน... ในสายตาผม รู้สึกว่าเกมต่อบอลไปหน้าประตูของทีมไทยดีขึ้น โดยตะวัน จะออกไปเล่นเป็นตัวริมเส้น คอยต่อบอลตามขอบสนาม เพราะจะให้วิ่งๆๆ จี๊ดๆๆๆ เหมือนเมื่อเกือบสิบปีที่แล้วก็คงไม่ได้ ครับ...สังขารไม่เที่ยง... เกมไทยดีขึ้นหรือเปล่าไม่รู้ แต่เล่นได้น่ารักน่าลุ้นขึ้นมาก จนนาทีที่ 50 “ซิโก้” หลุดเข้าไปจิ้มบอลลอดขาผู้รักษาประตูโสมแดงตีเสมอเป็น 1-1 คนไทยเฮทั้งสนาม....เยี่ยมมากทีมชาติไทย.... แต่... เรื่อที่ทุเรศที่ก็เกิดขึ้นครับ มันทุเรศเกินจะเอ่ย.... คือพอเกาหลีเหนือกลับมาเขี่ย เขา...จิ้ม...วิ่ง...จิ้ม...วิ่ง...จิ้ม...วิ่ง... ลองจินตนาการภาพเอาเองนะครับ เกาหลีเหนือเขี่ยลูก ภาพที่เห็นคือทีมไทยทั้งสิบเอ็ดคนคนจะอยู่ในแดนเราใช่ไหมครับ... แต่ไอ้เจ้าเกาหลีคนนั้นในจิ้มวิ่งจิ้มวิ่งผ่ากลางดงตีนไทยอย่างกะทีมไทยโดนไล่ออกไปแปดคน โอ้แม่เจ้า...มันส่งให้เพื่อนที่รออยู่กรอบเขตโทษ...ยิง...เสียบมุม...2-1 คนไทยเงียบกริบ... กูดีใจได้ครึ่งนาที!! พ่อค้าขายปลาหมึกย่างข้างๆ ผมสบถ ขี้เกียจเขียนถึงลูก 3-1 และ 4-1 ที่โดนโต้กลับและโล่งทางฝั่งซ้ายพื้นที่ทำการของคุณดุสิต จอมกระทืบ(บ๋อย) นี่แหล่ะ ดุสิต ของแท้เลย... ครับ...เหมือนนัดกันไว้ พอลูกสี่หนึ่งผมพาตัวเองออกนอกสนามเลย รวมทั้งอีกหลายๆ คนที่คิดเหมือนผมที่ไม่สามารถทนเห็นภาพบาดตาบาดใจได้อีกต่อไป
พอแล้วครับ....ไม่ทนดูจนจบ...ได้ข่าวว่าหลังจากนั้นไทยได้จุดโทษด้วย แต่ซิโก้เราก็ยิงไม่เข้า นะ....เลยแพ้ไป 4-1 แทนที่จะแพ้ 4-2 เกินเยียวยาแล้วครับ ทีมชาติไทยชุดนี้ ไม่รู้ว่า การเช็กออฟไซด์นั้น เป็นเทคโนโลยี ที่ยังไม่เข้าประเทศไทยหรือไง.... ผู้รักษาประตูหน้าใหม่ที่ชื่อโกสินทร์ หทัยรัตนกุล ก็พิสูจน์แล้วว่ากระดูกไม่ถึง ไม่นิ่ง ไม่มืออาชีพเลย ไม่น่าเชื่อว่านี่จะเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดของไทยในเวลานี้ มีหลายจังหวะครับที่เขาจะควรออกมาตัดบอล แต่กลับหันหน้าวิ่งไปรอให้โดยสอยหน้าโกล บางจังหวะที่กองหน้าหลุดก็ไม่ออกมาบล็อค ยืนหล่อรอจนกองหน้ายิง... คิดว่าตัวเองเป็นวากาบายาชิหรือไง!!!! อย่าโทษครับว่าการยิงข้ามคานจากห้าหลาหน้าโกล หรือยิงชนคานบนปากประตูโล่งๆ เป็นเพราะดวงไม่ดี!!! เพราะมันไม่ใช่ดวงครับ....มันเป็นเพราะคนยิงมันไม่เอาไหนมากกว่า เพราะจังหวะที่ได้ยิงนั้น มันไม่ได้เป็นจังหวะที่กดดันมีกองหลังสี่ห้าตัวประกบที่ไหน มันเป็นปากประตูโล่งๆ ที่เอาลิ้นแตะ เอาตูดตบก็เข้า แต่เรากลับยิงไม่เข้า... ไอ้ลูกชนคานเนี่ย...ถ้าคิดอีกมุมว่าถ้าถอยไปอีกสักสองหลา มันก็คือข้ามคานนี่เอง ถ้าข้ามคานคือการยิงห่วย การยิงจ่อๆ ชนคานก็คงไม่ใช่พลาดเพราะดวงแต่อย่างใด ถ้ายิงมาจากระยะสามสิบหลาก็ว่าไปอย่าง.... พอเถอะครับที่ว่าบอลไทยไม่พัฒนาเพราะคนไทยไม่ใส่ใจบอลไทย.... จำนวนคนดูในสนามวันนั้นก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า คนไทยไม่เคยทิ้งบอลไทย ยังตามเชียร์แม้จะเล่นห่วยลงเรื่อยๆ แต่สภาพที่ผมเห็นทีมไทยในวันนั้นคือทีมไทยที่ไม่มีใจเล่น!!! ไอ้แพ้น่ะ พอรับได้ครับ แต่เล่นแบบขอไปที เล่นแบบไม่ทุ่ม เล่นแบบไม่เต็มใจ เล่นแบบไม่มีใจ นั่นแหล่ะครับที่ผมรับไม่ได้ และคนไทยอีกหลายคนก็คงรับไม่ได้ ไม่เหมือนเกาหลีเหนือที่วิ่งๆๆๆๆๆๆ สู้ฟัดมันทั้งเกม นี่แหล่ะครับ จะทำให้คนไทยเสื่อมศรัทธา เล่นอย่างนี้ใครจะอยากสนับสนุน... เล่นอย่างนี้อย่ามาโทษคนไทยเลยครับว่าละเลยบอลไทย การที่นักฟุตบอลไทยไม่มีข้าวกิน การที่ตอนซีเกมส์โดนเบื้องบนสั่งล้มบอล การที่จ้างคนต่างชาติมาเป็นแค่หัวหน้าสตาฟโค้ช เขาจะมาเป็นผู้จัดการทีมก็ไม่ได้ เพราะมีการเมือง มีนอก มีในแทรกแซงไปหมด โค้ชที่จ้างมาเขาจะหมดกำลังใจกันอยู่แล้ว บ้านอื่นเมืองอื่น เขาจ้างคนต่างชาติมาเป็นผู้จัดการทีมเต็มตัว มีอิสระที่จะเลือกตัวผู้เล่น แต่ทีมไทย อุบาทว์ครับ คนนั้นเด็กคนนี้ คนนี้สายคนนั้น พัวพันมั่วซั่ว อะไรก็ไม่รู้ โค้ชบราซิลที่จ้างมาก็ปวดหัวครับ มันเอานักอะไรมาให้กูเนี่ย... ไอ้คนที่ไม่รักบอลไทยมันคงไม่ใช่คนไทยหรอกครับ... มันเป็นไอ้พวกเหลือบพวกนี้แหล่ะ!!! ขนาดเกาหลีเหนือที่ประเทศไม่มีอะไรจะกิน เรายังแพ้คาบ้านตั้ง 4-1 วันเดียวกัน ญี่ปุ่นถล่มอินเดียไป 7-0 เกาหลีใต้สอยเวียตนามนิ่มๆ ไป 2-0 จีนอัดมาเลเซียไป 4-0 บอลไทยจะไปบอลโลก!!! ขออนุญาตถ่มน้ำลายเย้ยหยันไว้ก่อนเลย... ถ้าอยากจะพัฒนาบอลไทย แค่กำจัดพวกการเมืองในทีมชาติแค่นี้เราก็พัฒนาขึ้นเยอะแล้วครับ
หญ้าแห้วหมวย...รายงานจากราชมังคลากีฬาสถาน...หัวหมาก... กรุงเทพฯ เซ็งว่ะ!!!!!!
(กลับไปข้างบน) /(กลับไปหน้าแรก) / (กลับไปหน้าแรก salon)
สงวนลิขสิทธิ์ © 2003
|