|
|||||||||||||||||
ดู TV
ฟังวิทยุ อ่าน นสพ. การ Set เพื่อพิมพ์ไทย โทรกลับไทย IRADIUM โทรกลับไทย Telerabais ที่ตั้งและแผนที่ Aix การเดินทางและตารางรถ ตารางรถประจำทางใน AIX ตารางรถไป Marseille และ Plan de campagne ตารางรถPays d'Aix ไป Plan สภาพอากาศประจำวัน
ที่
Aix-en-Provence
(กระทู้)การขอทุนเรียนที่ฝรั่งเศส
ที่พักอาศัย
การติดต่อที่จำเป็น ลิงค์เพื่อนบ้าน |
โดย Andalouse girl
กลับมาพบกันอีกครั้งกับมุม Movie นะคะ ครั้งนี้ Andalouse girl ขออนุญาตแนะนำหนังเรื่องใหม่ที่ไม่ได้มาจาก Hollywood แต่มาจากการสร้างร่วมกันระหว่างฝรั่งเศส เยอรมันและอังกฤษนี่เอง หนังชื่อว่า Man to Man ค่ะ จัดอยู่ในประเภทหนังดราม่าเชิงประวัติศาสตร์ โดยเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อศตวรรษที่ผ่านมานี้เอง ในขณะนั้นนักวิทยาศาสตร์มีทฤษฎีที่ว่าหากมนุษย์วิวัฒนาการมาจากลิง ก็ควรที่จะต้องมีสายพันธุ์ที่อยู่คั่นกลางระหว่างสิ่งมีชีวิตสองประเภทนี้ และแน่นอนว่าสิ่งมีชีวิตนี้จะไม่ถูกพิจารณาว่าเป็นมนุษย์ Man to Man
หนังกล่าวถึงวิทยาศาสตร์ในช่วงปี1870 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับยุคการล่าอาณานิตม นักมนุษยวิทยา (l’anthropologue)ได้พยายามทำการค้นหา ศึกษาและพิสูจน์ทฤษฎีที่ว่าด้วยสิ่งมีชีวิตที่อยู่ระหว่างพัฒนาการระหว่างมนุษย์และลิง จึงทำการแบ่งโดยอาศัยความแตกต่างทางกายภาพและวัฒนธรรม เหตุนี้จึงได้จับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าพวกปิ๊กมี่ (Pygmées) จากทวีปอัฟริกามาทำการทดลอง โดยเหล่านักมนุษยวิทยาได้ตัดสินว่าสิ่งมีชีวิตที่ได้จับมาทดลองนี้มีความป่าเถื่อน ( sauvage) และเป็นเพียงสิ่งมีชีวิต (créature) ที่ไม่ใช่มนุษย์ไว้ตั้งแต่ก่อนทำการสังเกตและศึกษาทดลองเสียอีก แต่เมื่อครั้นเวลาผ่านไปท่ามกลางบรรยากาศการโต้แย้งทางวิชาการ พวกปิ๊กมี่ก็ได้แสดงออกถึงความสามารถและความฉลาดในการเรียนรู้ พร้อมกับอารมณ์ความรู้สึกดังเช่นมนุษย์ทั่ว ๆ ไปต่อนักมนุษยวิทยา ทำให้พวกเขาเริ่มหันกลับมามองว่าทฤษฎีที่พวกเขาเชื่อกันมานั้นอาจมีความผิดพลาดได้ มาถึงจุดนี้หนังก็ทำให้ผู้ชมได้เริ่มตั้งคำถามกันหลายประเด็นล่ะค่ะ ตั้งแต่อะไรควรจะเป็นเส้นจำกัดของการทดลองวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะการทดลองอันมีลักษณะล่อแหลมต่อสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะให้คำนิยามว่าอะไร หรือแม้แต่ถ้ามองไกลอีกหน่อยก็ลองนึกถึงสิทธิและศักดิ์ศรีที่ควรจะได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกันหรือใกล้เคียงกับมนุษย์ อย่างน้อยก็ในฐานะสิ่งมีชีวิต แต่ทั้งสองประเด็นนี้อาจยังไม่สามารถให้คำตอบได้ชัดเจนเนื่องจากเรื่องราวของเรื่องจำกัดอยู่ในความรู้หรือการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ช่วงปลายศตวรรษที่ 19
ลองกลับมาดูกันที่นักแสดงกันบ้าง เรื่องนี้ได้ Joseph Fiennes มารับบทเป็น Jamie Dodd นักมนุษยวิทยา ที่เป็นผู้ค้นพบและจับตัวปิ๊กมี่สองคนมาทำการทดลอง แต่ในท้ายที่สุดก็เป็นคนที่พยายามค้นหาความเท่าเทียมและความเสมอภาคในฐานะมนุษย์ให้กับปิ๊กมี่คู่นี้ โดยส่วนตัวแล้ว บทที่ Fiennes เล่นน่าจะสามารถสร้างความประทับใจและน่าจะมีพลังดึงดูดได้มากกว่านี้ แต่ดูยังไงก็ยังไม่พบ และแม้ว่า เธอจะมีตาคู่สวย แต่โดยรวมหน้าก็ยังแสดงออกไม่ได้อารมณ์ตามบทหนังมากนัก
Kristin Scott Thomasรับบทเป็น Elena Van Den Ende นักค้าสัตว์หายากที่มาจากทวีปต่าง ๆโดยเฉพาะจากอัฟริกา Kristin เล่นได้ดี สื่อบุคลิกของตัวละครนักธุรกิจที่กล้าได้กล้าเสีย เย็นชา และรักษาผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก แต่ก็ยังมีศีลธรรมคอยเตือนสติอยู่ในบางสถานการณ์ Lomama Boseki (Toko), Cécile Bayiha (Likola) รับบทเป็นคู่ปิ๊กมี่ที่ถูกจับมาทำการทดลอง จริง ๆ แล้วทั้งคู่ก็เป็นชาวปิ๊กมี่จริง ๆ นี่ล่ะค่ะ พูดฝรั่งเศสได้นิดหน่อย แต่บทเน้นเรื่องการแสดงออกทางอารมณ์มากกว่าเลยไม่ต้องกังวลกับปัญหาการท่องบท ไม่แน่ใจว่าเป็นงานแสดงเรื่องแรก ๆ ของพวกเขาหรือเปล่า แต่โดยรวมแล้วสอบผ่านค่ะ
ในความเห็นส่วนตัว หนังยังให้ความรู้สึกไม่รุนแรงต่อปัญหาการเหยียดเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่น่าจะทำให้ได้อารมณ์เข้มข้นมากกว่านี้ แต่เนื่องจากอาจเป็นเพราะหนังได้สร้างโดยมีฐานมาจากมุมมองในทางทฤษฎีวิทยาศาสตร์ ไม่ได้มาจากข้อเท็จจริงเรื่องมุมมองของคนในสมัยนั้นซักเท่าไหร่ จึงทำให้ลดความรุนแรงไปได้บ้าง แต่ก็ยังมีความรู้สึกว่าหนังไม่ได้ตำหนิมุมมองของคนขาวต่อชาวปิ๊กมี่เท่าไหร่นัก สังเกตจากบางฉากที่พวกชนผิวขาวยอมรับความเท่าเทียมกันระหว่างพวกตนและปิ๊กมี่อย่างง่ายดายแถมยังยอมรับในฐานะเพื่อนเสียอีก เหมือนกับนำเสนอถึงความใจดีนิด ๆ ด้วยซ้ำ ซึ่งในความจริงแล้วแม้จะผ่านมาเป็นร้อยปีแต่แนวความคิดดวามเป็นผู้เหนือกว่า และเอาเปรียบ ชนชาติอื่น ๆ ของคนผิวขาวก็ยังมีอยู่ตลอดมา แต่ก็มีบางฉากที่สร้างความสะเทือนใจได้ทีเดียว เช่นฉากที่ให้ปิ๊กมี่สองคนอยู่ในกรงแล้วทิ้งไว้รวมกันกับกรงของสัตว์สี่เท้าอื่น ๆ ระหว่างการเดินทางกลับยุโรปทางเรือ หรือการย้ำข้อเท็จจริงที่ว่าสวนสัตว์มนุษย์นั้นเคยมีอยู่จริง
แต่หนังก็ยังมีฉากสร้างความสะใจ (เล็ก ๆ ) เช่นฉากแนะนำชื่อตัว หรือการสอนให้รู้จักความเป็นเพื่อน รวมทั้งการไว้วางใจกันและกัน ก็มาจากปิ๊กมี่ที่ถูกมองว่ามีสมองใหญ่กว่าลิงเล็กน้อยนี่ล่ะที่สอนพวกคนขาว สำหรับบุคลที่ ไม่แนะนำให้ไปดูคือประเภทที่ชอบหนังมีแสง สี เสียง ตื่นตาตื่นใจสไตร์ Hollywood อย่าไปดูค่ะ เพราะหาไม่ได้จากหนังเรื่องนี้ แต่หากใครที่ชอบวิวหรือฉากธรรมชาติสวย ๆ ของสก็อตแลนด์ ก็ลองเป็นหนึ่งในตัวเลือกระหว่างยืนตัดสินใจอยู่หน้าโรงหนังละกัน
ขอกระซิบนิดนึงว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองจากประสบการณ์การดูหนังโรงในฝรั่งเศสที่เมื่อหนังฉายจบแล้วมีเสียงปรบมือมาจากกลุ่มคนดู คิดว่าคงถูกใจหรือประทับใจคนดูในระดับหนึ่ง สำหรับ Andalouse girl เองมองว่าหนังมีเนื้อหาค่อนข้างคลาสสิก และไม่ถึงขนาดต้องเตรียมทิชชูไปซับน้ำตา แต่ก็ไม่ได้ออกจากโรงหนังตัวเปล่าค่ะ เพราะมันมีเรื่องให้คิดต่อเกี่ยวกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหมือนทิ้งท้ายเป็นการบ้านยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน
ดูรอบหนังของโรงหนังที่ Aix http://www.allocine.fr/seance/salle_gen_csalle=P0112.html
พบกันใหม่โอกาสหน้า ...........................
(กลับไปหน้าแรก)
/
(กลับไปหน้าแรก
salon) |