ศัพท์กฎหมายฝรั่งเศส

Internet pour le droit

เรื่องอยากเล่า

Salon d'Aix

webboard

คุยกับดอกแก้ว

จดหมายเหตุ


ดู TV ฟังวิทยุ อ่าน นสพ.
การ Set เพื่อพิมพ์ไทย
โทรกลับไทย IRADIUM
โทรกลับไทย Telerabais

ที่ตั้งและแผนที่ Aix
การเดินทางและตารางรถ

ตารางรถประจำทางใน AIX
ตารางรถไป Marseille และ Plan de campagne
ตารางรถPays d'Aix ไป Plan
    สภาพอากาศประจำวัน
    ที่ Aix-en-Provence


Webboard

Thaiaixois Gallery
ศัพท์กฎหมายฝรั่งเศส
Internet pour le droit
เรื่องอยากเล่า (วิชาการ)
สภากาแฟ Salon d'Aix
คุยกับดอกแก้ว
จดหมายเหตุ
ส่ง e-cartes  virtuelles d'Aix-en-Provence

(กระทู้)การขอทุนเรียนที่ฝรั่งเศส

การปรับหลักสูตรมหาวิทยาลัยของฝรั่งเศส

คู่มือศึกษาต่อในประเทศฝรั่งเศส (โดยสารสนเทศการศึกษาต่อต่างประเทศ)

คู่มื่อเลือกมหาวิทยาลัยในฝรั่งเศส( Guide Lamy des 3es cycles)

โรงเรียนสอนภาษาฝรั่งเศส IEFEE


มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในฝรั่งเศส

มหาวิทยาลัยใน Aix
Université de Provence 
Université de la Mediterranee

Université Paul Cézanne (Universitéde Droit, d'Economie et des Sciences d'Aix-Marseille3)

สถาบันศึกษาอื่น


ที่พักอาศัย
 - ที่พักของมหาวิทยาลัย
( CROUS)

ที่พักของเอกชน
 
- (Estudines)
 
-  (Citadine)  
 -
หาที่พักกับ adele.org
 - หาที่พักกับ office de tourisme
 - พักที่บ้านพักเยาวชน(Auberge de jeunesse)

การขอเงินช่วยเหลือค่าที่พัก(CAF)


การติดต่อที่จำเป็น

การติดต่อขอใบอนุญาตพักอาศัยในประเทศ(Carte de sejour)
 - เอกสารที่ต้องใช้ 1/ 2 /3
 - ติดต่อ
Prefecture des Bouches-du-Rhone
 - (กระทู้Thaiaixoisที่เกี่ยวข้อง)

การประกันสุขภาพ
 - การติดต่อประกันสุขภาพ
Securite sociale)
 - MEP ประกันสุขภาพของนักเรียน(อายุไม่เกิน 25 ปี)
 - Assurance étudiant (อายุไม่เกิน 40 ปี)

อื่น ๆ
 - การทำงานนอกเวลา
 - การต่ออายุหนังสือเดินทาง


ลิงค์เพื่อนบ้าน
Thai Law Reform
สมาคมนักเรียนไทยในรั่งเศส
เพื่อนไทยในเกรอนอบ
เพื่อนไทยในตูลูส
เพื่อนไทยในลียง

ABC-Bittorrent Client โดย pingpong
เพื่อนไทยในเบลเยี่ยม
สำนักงานผู้ดูแลนักเรียนฯ
เล่าข้ามฟ้ากับนาย Baguette
Pokpong's
Nujern's homepage
Café Lunar

Cafe Lunar สาขา 2
Le Journal de TAUNG
Artsstudio

   


 

Concept ของการแข่งขันทางการค้า

 

                                                                       โดย เอกสิทธิ์ วินิจกุล

 

                กฎหมายเพื่อการแข่งขันทางการค้าเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินการนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐทุนนิยม ซึ่งจะเคียงคู้เสมอกับการคุ้มครองผู้บริโภค อีกนัยหนึ่งคือรัฐที่มีการแข่งขันทางการค้าที่ดี ผู้บริโภคก็จะได้รับประโยชน์ตอบแทนที่ดีที่สุด เช่น สินค้าราคาไม่แพงแต่มีคุณภาพดี อีกทั้งคุณภาพของสินค้าก็พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ หากมีการแข่งขันที่เป็นธรรม

 

                ธรรมชาติของการแข่งขันทางการค้า นั้น ผู้ผลิตต้องคำนึงถึงการตั้งราคาว่าราคาเท่าใดจึงจะมีผู้ซื้อสินค้าหรือบริการที่ตนผลิต ซึ่งโดยธรรมชาติของตลาดเมื่อสินค้าใดถูกต้องการมากสินค้านั้นก็มีราคาสูงขึ้น ในทางกลับกัน หากราคาเพิ่มสูงขึ้นจนมากเกินไป ความต้องการก็จะลดลง หรือราคาของสินค้าหรือบริการนั้นลดลงเมื่อสินค้านั้น ๆมีจำนวนในตลาดมากเกินไป

                และเช่นกันผู้ผลิตคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดที่ตนเองสมควรได้รับซึ่งหากมีการแข่งขันกันมาก ส่วนแบ่งการตลาดของรายหนึ่ง ๆ ก็อาจจะมีแนวโน้มลดลง หรือผู้ผลิตรายนั้น ๆ ก็ไม่สามารถตั้งราคาสินค้าที่ตนผลิตอย่างที่ตนต้องการได้ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่ผู้ผลิตต้องการทำให้การแข่งขันทางการค้าลดลงโดยการจำกัดคู่แข่งเพื่อให้บริษัทของผู้ผลิตเองสามารถได้รับส่วนแบ่งของตลาดได้มากที่สุด และสามารถกำหนดราคาที่ตนต้องการได้ ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้เรียกว่า Anti-Concurrence

 

            ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของรัฐในการป้องกันการกระทำ Anti-Concurrence เพื่อส่งเสริมให้การแข่งขันทางการค้าสามารถดำเนินต่อไปเพื่อผู้บริโภคเองสามารถได้รับสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม ซึ่งอาจมองได้ว่าเป็นการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะอย่างหนึ่ง

 

                กฎหมายเพื่อการแข่งขันทางการค้า เริ่มมีขึ้นในปลายศตวรรษที่ 19 ในประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้สนับสนุนการแข่งขันทางการค้าให้เป็นธรรม โดยห้ามบริษัทหรือกลุ่มบริษัทที่พยายามกำจัดคู่แข่งที่มีขนาดเล็กกว่า ขณะที่คอยตั้งราคาสินค้าของตัวเองให้มีราคาสูงขึ้น ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคเอง ซึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกาบริษัทที่เป็นเหยื่อของการ Anti-Concurrence สามารถใช้กระบวนการยุติธรรมในการเข้าแทรกแซงการ Anti-Concurrence นั้นๆ และสามารถได้รับค่าเสียหายได้

                แต่ในทางกลับกันหากมีการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการแข่งขันทางการค้าอย่างเข้มงวดจนเกินไปจะทำให้ประสิทธิภาพของบริษัทที่ผลิตสินค้าลดลงและจะมีผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งโดยสภาพบริษัทที่จะพยายามยึดครองตลาดในช่วงต้นต้องคอยพัฒนาประสิทธิภาพของสินค้าและบริการของตนเอง เพื่อให้เหนือกว่าบริษัทอื่นๆ ซึ่งจุดนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคโดยตรง

 

                ดังนั้น การบังคับใช้กฎหมายเพื่อการแข่งขันทางการค้าไม่ควรจะเข้มงวดจนเกินไปนัก และการบังคับใช้น่าจะต้องสมเหตุสมผลและได้สัดส่วนกับผลประโยชน์ของผู้บริโภค 

 

จากคำพิพากษาของศาลของประเทศสหรัฐอเมริกาสามารถแยกแยะการใช้กฎหมายป้องกันการผูกขาดได้ 2 ประเภท

 

            1.เป็นรูปธรรม เพื่อพิสูจน์ว่าการปฏิบัตินั้น ๆ ขัดกับกฎหมายที่บัญญัติไว้

 

            2.เป็นนามธรรม ซึ่งเป็นดุลพินิจของศาล ซึ่งดูว่าการปฏิบัตินั้น ๆ มีผลอย่างไรเป็นการ Anti- Concurence หรือไม่ซึ่งต้องดูในแต่ละสาขาของการประกอบธุรกิจนั้นๆ

                ซึ่งในกรณีหลัง (นามธรรม) เป็นประโยชน์มากในทางเศรษฐกิจ และสามารถส่งเสริมให้บริษัทต่างๆสามารถพัฒนาประสิทธิภาพของสินค้าของตนเองได้อย่างเต็มที่

                ตัวอย่างเช่น ในการ « dumping » ซึ่งหมายถึง บริษัทหนึ่งลดราคาสินค้าของตนเองชั่วคราวเพื่อทำให้บริษัทอื่นๆซึ่งเป็นคู่แข่งของตนในตลาดถูกกำจัดออกไป และจะเพิ่มราคาขึ้นเมื่อคู่แข่งในตลาดของตนถูกกำจัดออกไปซึ่งจากคดี Brooke 1993 Cour Suprème ของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้วางหลักการในการป้องกันการ dumping ดังนี้

 

          (1) ต้องพิสูจน์ได้ว่าราคาที่ Dumping นั้นต่ำกว่าราคาจริงในตลาด

 

(2) ต้องพิสูจน์ได้ว่าหลังจากการ Dumping บริษัทที่ทำการ Dumping สามารถได้รับประโยชน์จากการ Dumping และสามารถหากำไรเพื่อชดเชยในส่วนที่ตัวเองขาดทุนไปในระหว่างการกระทำ Dumping ได้

 

(3) ต้องพิสูจน์ได้ว่าระหว่าที่ทำ Dumping หรือหลังจากทำ Dumping มีการเกิดขึ้นของการกีดกันทางการแข่งขัน โดยไม่ให้บริษัทอื่นสามารถเข้ามาทำการแข่งขันได้อย่างเสรี

 

ซึ่งในความเป็นจริง การ Dumping ไม่สามารถทำได้นานนัก เนื่องจากว่าบริษัทที่ทำการ Dumping มีความเสี่ยงในการรับภาระการขาดทุนและเสี่ยงที่จะไม่สามารถได้รับประโยชน์จากการ Dumping ของตนเอง โดยการหากำไรหลังจากการ Dumping เพื่อชดเชยในส่วนที่ขาดทุนไป ในระหว่างตอน Dumping อีกทั้ง บริษัทที่ทำการ Dumping ต้องเพิ่มผลผลิตของตนเอง เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่อาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาที่ลดต่ำลง และบริษัทอื่นๆในตลาดก็สามารถรักษาสภาพความมั่นคงทางตลาดของตนเองได้ หากลดผลผลิตของตนเองลง ในระหว่างมีการ Dumping และให้มาตรการทางการเงินอื่นๆ เพื่อช่วยพยุงฐานะของบริษัท

 

แต่อย่างไรก็ตาม ผลที่อาจเกิดขึ้นได้ภายหลังการ Dumping คือ

1) ข้อมูลที่บริษัทต่างๆ ได้รับจากตลาดไม่ได้มีลักษณะที่เท่าเทียมกันในความเป็นจริง ดังนั้น อาจทำให้บริษัทอื่นๆ ประเมินผิดพลาดในกลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงผลกำไรที่ตนควรจะได้รับ

2) บริษัทที่ทำ Dumping สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทของตัวเอง และสินค้าของบริษัท อาจจะรู้จักกันอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้บริโภคได้

 


(กลับไปหน้าแรก) / (กลับไปสารบัญบทความ)
 

 

สงวนลิขสิทธิ์ © 2003 
งานเขียนแต่ละชิ้นเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียนแต่ละท่าน